การประชุม คกก.โรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 12/2564 วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสุดสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี

1 กรกฎาคม 2564

จังหวัดชลบุรีได้จัดการประชุม คกก.โรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ครั้งที่ 12/2564 วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสุดสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นายแพทย์อภิรัจ กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยสรุปประเด็นหารือในการประชุมฯ ดังนี้

จากสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี 5 วันย้อนหลัง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปโดยไม่มีมาตรการอาจจะส่งผลต่อสถานการณ์การระบาดในพื้นที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในทางสาธารณสุข จึงเน้นกระบวนการควบคุมโรคโดยเร็ว เพราะการควบคุมโรคช้าเพียงวันเดียวสามารถส่งผลต่อการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ดังนั้น เพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้ไม่เกินศักยภาพของบุคลากรด้านสาธารณสุขให้ยังคงสามารถทำงานได้โดยไม่เกินกำลัง จึงจำเป็นต้องมีมาตรการ และให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มศักยภาพ

สำหรับพื้นที่คลัสเตอร์ที่พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เช่น ตลาด สิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนที่จะพิจารณาว่าจะปิดตลาดหรือไม่ คือต้องตรวจเชิงรุกให้หมดก่อน แล้วแยกคนติดเชื้อไปรักษา แยกผู้สัมผัสให้กักตัวไว้ หากรีบปิดตลาดก่อน โดยไม่ตรวจเชิงรุกให้เสร็จ จะเหมือนผึ้งแตกรัง ผู้ติดเชื้ออาจจะกระจายไปขายสินค้าในตลาด หรือ สถานที่อื่นๆ ทั่วทั้งจังหวัด ยากแก่การควบคุมโรค นอกจากจะตรวจเชิงรุก แยกผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสออกแล้ว ยังต้องมีมาตรการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อ และไม่ใช่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน และผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่ให้ขายของในตลาดต่อไป สำหรับกรณีผู้ที่หลบหนี ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อ หากมีความประสงค์ฉีดวัคซีน ให้ไปตรวจหาเชื้อฯ ก่อน แล้วจึงมาฉีดวัคซีนในภายหลัง ในส่วนของผู้ถูกกักตัวจะฉีดวัคซีนให้หลังกักตัวครบตามระยะเวลาที่กำหนด

การจัดสรรวัคซีน ซึ่งจังหวัดชลบุรี ได้จัดสรรวัคซีนโดยใช้หลักการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อต้องการลดปัญหาการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเป็นการเร่งด่วน ป้องกันการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ยากต่อการควบคุมฯ ดังนั้น การจัดสรรให้กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่แพร่ระบาด จึงมีความจำเป็นในลำดับต้นๆ เนื่องจากการฉีดวัคซีนจะเป็นปัจจัยในการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ได้ แต่หากสถานการณ์ต่างๆ กลับมาสู่สภาวะปกติ หรือ ไม่มีการแพร่ระบาดของโรคในกลุ่มคลัสเตอร์ใหญ่ที่เอื้อต่อการแพร่โรคให้กับกลุ่มอื่น หรือ ประชาชชนโดยง่ายแล้ว การจัดสรรวัคซีนก็จะเป็นไปตามมาตรการที่เคยกำหนดในสภาวะปกติ

การบริหารวัคซีน ใช้หลักการเน้นการควบคุมโรคในพื้นที่ระบาด เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มีผู้สูงอายุ 3 แสนราย ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 2 แสนราย แต่ชลบุรีได้รับจัดสรรวัคซีน 8 หมื่นโดสเท่านั้น ดังนั้น จำนวนวัคซีนจึงไม่เพียงพอต่อการปกป้องกลุ่มดังกล่าว จึงต้องจัดสรรให้กลุ่มพื้นที่ระบาด เช่น ตลาดใหม่ ชุมชนบางทราย รวมถึงเร่งฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้า ทั้งทีมแพทย์ อสม. กู้ชีพ กู้ภัย รวมถึงพระสงฆ์ ครูในพื้นที่ระบาด 3 อำเภอ คืออำเภอเมืองชลบุรี อำเภอบางละมุง และอำเภอศรีราชา ผู้ค้าชายหาด รวมถึงกลุ่มผู้ลงทะเบียนหมอพร้อม ซึ่งขณะนี้มีจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แอพพลิเคชั่นหมอพร้อม วัคซีนชลบุรี หรือ ระบบประกันสังคม รวมกว่า 1.17 ล้านคน  มีผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว 1.4 แสนคน และเข็มที่ 2 จำนวน 8.2 หมื่นคน อยู่ที่ประมาณ 15% ของจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด

ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกันตน โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ ได้รับจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงแรงงานจำนวน 160,000 โดส และได้วางแผนกำหนดจุดฉีดวัคซีนของกลุ่มนี้ไว้ 11 จุด ประกอบด้วย พื้นที่นิคมอมตะซิตี้ อำเภอเมือง อำเภอพานทอง อำเภอบ้านบึง อำเภอหนองใหญ่ อำเภอพนัสนิคม อย่างละ 1 จุด โดยทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรีเป็นผู้บริหารจัดการ สำหรับสาขาศรีราชา ตั้งไว้ 4 จุด คือ ที่ศาลาประชาคมอำเภอศรีราชา นิคมแหลมฉบัง นิคมเครือสหพัฒน์ นิคมปิ่นทอง ส่วนที่อำเภอบางละมุง คือเซนทรัลมารีน่า ซึ่งทางประกันสังคมจะแจ้งรายละเอียด วันเวลาในการดำเนินการอีกครั้ง 

การจัดหาวัคซีนทางเลือก (ชิโนฟาร์ม) ขณะนี้ทางท้องถิ่น ทั้ง อบจ. และเทศบาลขนาดใหญ่ เช่น เทศบาลนครต่างๆ มีการจองวัคซีนรวมทั้งจังหวัดประมาณ 4 แสนโดส ผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมที่จะเข้ามารวมกับจำนวนวัคซีนที่ทางสาธารณสุขได้รับการจัดสรรจากส่วนกลาง โดยกระบวนการดำเนินการต่างๆ ต้องพิจารณาจากการได้รับจัดสรรมาในล๊อตแรกจำนวนเท่าไหร่ จึงจะสามารถบริหารจัดการการกระจายวัคซีนในพื้นที่ได้

ในสถานการณ์ปัจจุบัน จังหวัดชลบุรีจำเป็นต้องเน้นกระบวนการคัดกรอง การค้นหาคลัสเตอร์ใหม่ การกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด รักษาผู้ที่ติดเชื้อ และฉีดวัคซีนสำหรับประชากรในพื้นที่ ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากเป็นการค้นหาเชิงรุก โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอศรีราชา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเน้นให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ชุมชนที่มีความแออัดของทั้งคนไทย และต่างด้าว เพื่อเตรียมฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ด้วย

ในส่วนของมาตรการผ่อนคลายในพื้นที่นั้น เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่อยู่ในขาขึ้น ดังนั้นหากมีผู้ติดเชื้อบางรายที่ไม่มีอาการ ได้ไปในสถานที่ต่างๆ จะส่งผลต่อการแพร่ระบาด และยากต่อการทำงานของบุคลากรด้านสาธารณสุข จึงเห็นว่ายังไม่ควรผ่อนคลายมาตรการใดๆ เพิ่มเติม โดยขอประเมินสถานการณ์อีกสักระยะ หากสถานการณ์ดีขึ้น จะได้มีการพิจารณามาตรการผ่อนคลายในพื้นที่เพิ่มเติมอีกครั้ง

ประเด็นที่ทางจังหวัดอยากจะเน้นย้ำ และขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ ในเรื่องการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มีดังนี้

พื้นที่ตลาด
1 ผู้ค้า หรือ ลูกจ้าง ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ค้า หรือ ลูกจ้างร้านอื่น ๆ ไม่ทานอาหารใกล้ชิดด้วย 
2 ไม่สังสรรค์
3 ป่วยต้องหยุด
4 ทำความสะอาดห้องน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม หลังออกจากห้องน้ำต้องล้างมือทุกครั้ง ไม่ใช้มือจับหน้าโดยไม่ล้างมือ 
5 ใส่แมสก์ตลอดเวลา 
6 เมื่อมีผู้ติดเชื้อในตลาด หากมีการตรวจเชิงรุก ขอให้รับการตรวจเชิงรุกทุกคน 
7 เมื่อมีการปิดตลาด ขอความร่วมมือผู้สัมผัส หรือ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้หยุดอยู่บ้าน
8 ไม่รับแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่เสี่ยง

สถานประกอบ มาตรการดังนี้
1. ไม่สังสรรค์ ไม่ตั้งวงดื่มเหล้า
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที 
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน 

สถานที่พักพนักงาน สถานประกอบการ อาจจะเป็นที่หอพักที่สถานประกอบการหาให้ หรือ หอพักที่ไปเช่าอยู่เอง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพนักงานหลายๆ บริษัทอยู่ปะปนกัน ซึ่งจะเป็นแหล่งกระจายเชื้อข้ามบริษัท เมื่อเริ่มมีกระระบาดในบริษัท ขอความร่วมมือพนักงานบริษัทเคร่งครัดในมาตรการส่วนบุคคล อยู่ห่างกัน ไม่ข้ามไปคุยกันกับห้องพักห้องอื่น ไม่ทานข้าวร่วมกัน ไม่สังสรรค์ อสม. เจ้าหน้าที่ ประชาชน ช่วยกันสอดส่อง

ขณะนี้มีการระบาดในวงกว้างใน กทม. ปริมณฑล อาจมีผู้ติดเชื้อเดินทางเข้าชลบุรี รวมทั้งมีผู้ติดเชื้อในชลบุรี อาจยังไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อปะปนอยู่ในสังคม โดยที่เราไม่ทราบ จึงขอให้เคร่งครัดในมาตรการอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะสุขอนามัยส่วนบุคคล เชื้อเข้าทางจมูกปากตา ต้องไม่จับหน้าโดยไม่ล้างมืออย่างเด็ดขาด สวมแมสก์ตลอดเวลา พยายามออกจากบ้านให้น้อยลง อยู่ห่างกัน ล้างมือบ่อยๆ สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ แม้การตรวจครั้งแรกจะไม่พบเชื้อ แต่มีหลายๆ รายตรวจพบเชื้อในครั้งที่ 2 ระหว่างการกักตัว 14 วัน

จังหวัดชลบุรีจะยังคงดำเนินการค้นหาผู้สัมผัส และค้นหาเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำมารักษาไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป

ที่มา: สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี