รมว.การท่องเที่ยวฯ หารือร่วมทุกภาคส่วนจังหวัดชลบุรี เตรียมพร้อมเปิดรับชาวต่างชาติ ดัน 5 จังหวัดเป็นพื้นที่นำร่อง “Sand Box”

14 พฤษภาคม 2564

รมว.การท่องเที่ยวฯ หารือร่วมทุกภาคส่วนจังหวัดชลบุรี เตรียมพร้อมเปิดรับชาวต่างชาติ  ดัน 5 จังหวัดเป็นพื้นที่นำร่อง “Sand Box” และมอบหมายสำรวจจำนวนพนักงานในภาคธุรกิจบริการที่แน่นอน เพื่อนำเสนอพิจารณาขอวัคซีนให้ครอบคลุมทุกหน่วยงาน 

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 64 เวลา 09.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมหารือเตรียมความพร้อมเรื่องแผนการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับ ซึ่งมีคณะผู้บริหาร นำโดยนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมรองนายกเมืองพัทยา ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา เลขานุการ/ผู้ช่วยเลขานุการนายกเมืองพัทยา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และเอกชน ประกอบด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี สภ.เมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยว ผู้แทนประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี สมาคม ชมรมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา 

การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยธุรกิจหลายประเภท ทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ ด้านการขนส่ง ที่พัก อาหาร และธุรกิจนำเที่ยว และทางอ้อม ได้แก่ การผลิตสินค้า เป็นต้น ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ และรายได้ มีบทบาทสร้างสรรค์ความเจริญสู่ประเทศอีกทางหนึ่ง และด้วยการท่องเที่ยวที่เป็นกลไกสำคัญในการช่วยพัฒนาประเทศในรูปแบบต่างๆ ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประชุมปรึกษาหารือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมความพร้อมเรื่องแผนการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับในการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย โดยที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้หารือกับทางกระทรวงสาธารณสุข และได้ออกมาเป็นมติของคณะกรรมการโรคติดต่อ ที่จะมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทย ตามแผนการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค covid-19 การลดระยะเวลากักกันบุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน covid แล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยมีเงื่อนไขพื้นที่/การดำเนินการต่างๆ ตามที่กำหนด ซึ่งระเบียบปฏิบัติสำหรับการผ่อนคลายลดระยะเวลากักกัน ต้องรอการพิจารณาจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 – กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) และกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เพื่อประกาศให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ กรณีผู้เดินทางจากประเทศที่มีเชื้อโควิค 19 กลายพันธุ์ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ยังคงต้องรับการกักกัน 14 วัน เช่นเดิม 

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในรูปแบบของ Sand Box ที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน โดยการกำหนดพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่การที่ทำในรูปแบบ Sand Box ได้นั้นจะต้องสัมพันธ์กับคนในพื้นที่ว่าได้รับวัคซีนตามที่กำหนดหรือไม่ โดยมีการนำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพงัน) เชียงใหม่ และชลบุรี (พัทยา) โดยจะเริ่มที่จังหวัดภูเก็ตก่อน ทั้งนี้ ต้องรอการพิจารณาจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 – กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) และกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง รวมทั้งความพร้อมของแต่ละพื้นที่เพื่อทำ Sand Box อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมือง ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ระลอกใหม่คลี่คลายลง ได้มีการดำเนินงานที่ส่งเสริม และสนับสนุนการท่องเที่ยวหลายๆ ด้าน ทั้งการปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่เกาะล้าน และชายหาดจอมเทียน ชายหาดพัทยา ด้วยการผ่อนผันเพิ่มที่จอดรถบริเวณชายหาดพัทยา เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19อย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อสำรวจผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีจำนวนเท่าไหร่ที่ยังเหลืออยู่ทุกสาขา เพื่อเตรียมการขอวัคซีนในเบื้องต้นแล้ว 

ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายกเมืองพัทยา สำรวจจำนวนพนักงานในภาคธุรกิจบริการที่แน่นอน ทั้งที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ รวมทั้งร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานบริการต่างๆ ที่ควรได้รับการฉีดวัคซีน เพราะคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าการรายงานในเบื้องต้นนี้ เพื่อนำเสนอพิจารณาจำนวนของวัคซีนให้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกหน่วยงานต่อไป

ที่มา: สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี