ผู้ว่าฯ ชลบุรี จัดงานพิธีวันพระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย

11 มีนาคม 2564

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานพิธี พร้อมด้วยนางสุภาพร เทียนไชย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ศาล ตุลาการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด และพสกนิกรชาวจังหวัดชลบุรี ร่วมถวายเครื่องราชสักการะ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย และจัดงานวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ให้วันที่ 2 มีนาคมของทุกปี เป็นวันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และทูลเกล้าขอพระราชทานถวายพระราชสมัญญา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย”

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระปรีชาสามารถด้านการช่างอันเป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ทรงประดิษฐ์ของเล่นเมื่อครั้งทรงพระเยาว์วัย จนถึงเรือใบที่ทรงใช้แข่งขันในกีฬาแหลมทอง กังหันน้ำชัยพัฒนา ตลอดจนทรงตั้งโรงเรียนพระดาบส เพื่อสอนวิชาชีพให้แก่เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสทั่วไป และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย 

และเมื่อปีพุทธศักราช 2513 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพ และแข่งขันฝีมือช่าง ณ ลุมพินีสถาน และทรงพระราชทานพระราชดำรัส เกี่ยวกับการช่างของไทย ความตอนหนึ่งว่า “ช่างทุกประเภทเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของบ้านเมือง และของทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัย และใช้บริการ หรือ สิ่งต่างๆ ที่มาจากฝีมือของช่างอยู่ทุกวี่วัน ผู้เป็นช่างจึงสมควรได้รับความเอาใจใส่ สนับสนุนจากทุกๆ ฝ่าย ในการส่งเสริมนั้นมีปัญหาเรื่องฝีมือซึ่งจะต้องปรับปรุง ให้มีความประณีต และประสิทธิภาพได้มาตรฐานจริงๆ”

กระแสพระราชดำรัสดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกล ที่มีพระราชดำรัสถึงความสำคัญของช่างฝีมือ ตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพราะนั่นหมายถึงคุณภาพของสินค้า และบริการ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย แม้จะพระราชทานไว้เป็นเวลาผ่านมาถึง 50 ปีแล้ว ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ และนับวันจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานของรัฐ และเหล่าข้าราชการ ได้น้อมนำใส่เกล้ามาปฏิบัติ ในการพัฒนาแรงงานไทยให้มีฝีมือ ได้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ และมาตรฐานสากล พร้อมทั้งจรรยาบรรณในวิชาชีพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ และรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมโลกในอนาคตอีกด้วย

ที่มา: สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี