เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561จังหวัดชลบุรี รับขบวนเรือย้อนรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 250 ปี จากอำเภอสัตหีบ มุ่งสู่เมืองชลบุรี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา 

ที่บริเวณชายหาดบางแสน ได้มีพิธีการรับกระบวนเรือยาตรา 250 ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา โดยเรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงสีชัง เรือพยูน และเรืออื่นๆ รวม 21 ลำ พร้อมการยกพลขึ้นบกที่บริเวณชายหาดบางแสน เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ งดงามสมพระเกียรติอย่างมาก โดยมีกลองศึกตีให้การต้อนรับ

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พลเรือโทชุมศักดิ์ นาควิจิตร ผู้บัญชาการฐานทัพเรือ ผู้แทนกองทัพเรือ ยืนทำความเคารพ ต่อจากนั้นเป็นการอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และธงมหาเดช พร้อมริ้วขบวน เดินทางจากชายหาดบางแสน ไปยังวัดใหญ่อินทาราม (พระอารามหลวง) โดยมีข้าราชการ ทหาร และประชาชนทั่วไป แต่งกายในชุดนักรบโบราณ ทั้งชายและหญิง และขบวนช้าง ขบวนม้า เดินตามขบวน เมื่อไปถึงวัดใหญ่อินทาราม กลองศึกตีให้การต้อนรับ ปืนใหญ่ยิงสลุต ถวายพระเกียรติ จำนวน 3 นัด

ซึ่งวัดใหญ่อินทาราม เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เคยใช้เป็นที่พักทัพ เมื่อเดือน 5 ปีกุน พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยา เสียแก่พม่า ความคิดของผู้ที่มีกำลัง และอำนาจตามหัวเมืองได้เปลี่ยนแปลง พระยาจันทบุรีก็นิ่งเฉยอยู่ ฝ่ายขุนรามหมื่นซ่องกรมการเก่าเมืองระยอง ซึ่งเคยปล้นค่ายพระยาตากสิน แล้วหนีไปนั้น ก็ไปตั้งกำลังซ่องสุมอยู่ที่เมืองแกลง อันเป็นเมืองขึ้นของเมืองจันทบุรี คุมสมัครพรรคพวกมาปล้นแย่งชิงช้าง ม้า พาหนะของพระยาวชิรปราการ (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ในหมู่นั้นด้วย พระยาวชิรปราการ จึงยกกำลังไปกำราบ ขุนนามหมื่นซ่องสู้ไม่ได้ จึงหนีไปอยู่กับพระยาจันทบุรี พระยาวชิรปราการ เห็นว่า การจะทำกำลังให้เป็นปึกแผ่นในพื้นที่ภาคตะวันออก จะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน ในขณะนั้น เมืองชลบุรี มีนายทองอยู่ นกเล็ก ที่ประพฤติตนเป็นมิจฉาชีพ คิดมิชอบต่อบ้านเมือง ตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ พระยาวชิรปราการ จึงยกกำลังมายังเมืองชลบุรี ตั้งกำลังอยู่ที่หนองมนต่อแดนเมืองบางละมุง แล้วยกกำลังต่อไปยังเมืองชลบุรี มาตั้งค่ายพักไพร่พลอยู่บริเวณหน้าวัดหลวง (วัดใหญ่อินทาราม) ครั้งเมื่อยังมีต้นหว้าใหญ่อยู่ จนถึงสะพานหัวค่าย (สะพานป้อมค่าย) จากนั้นบัญชาการเข้าปราบ นายทองอยู่ นกเล็ก ส่งคนไปเกลี้ยกล่อม นายทองอยู่ นกเล็ก ให้เข้ามอบตัวสวามิภักดิ์ นายทองอยู่ นกเล็ก เห็นจะสู้รบไม่ไหว จึงยอมเข้ามอบตัวมาสวามิภักดิ์ จึงโปรดตั้งให้เป็น พระยาอนุราชบุรีศรีมหาสมุทร. และศาลที่ประดิษฐาน พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดใหญ่อินทาราม พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาวชลบุรี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระกรุณาธิคุณ และพระกรณียกิจของพระองค์ ที่ได้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย

ภายในงานได้จัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การแสดงตรวจพลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบนักรบไทยสมัยโบราณ มวยคาดเชือก และฟันดาบ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน มาร่วมย้อนยุคไปกับการรำลึกถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินจำนวนมาก 

สำหรับโครงการ 250 ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา จัดขึ้นในครั้งนี้ก็เพื่อให้ประชาชนได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงกู้ชาติ และให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความยากลำบาก และสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากการยึดครองได้ เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 เวลาประมาณ 13.00 น. โดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนหลังจากเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี